หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten Islands)

สวรรค์แห่งทะเลเหนือในนอร์เวย์

หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten Islands) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ภายในเขตอาร์กติกเซอร์เคิล เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะมีทิวทัศน์ที่สวยงามราวภาพวาด ทั้งภูเขาที่สูงชัน ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใส หมู่บ้านชาวประมงสุดน่ารัก และแสงเหนือที่ส่องประกายบนท้องฟ้าในช่วงฤดูหนาว หากคุณกำลังวางแผน ทัวร์ยุโรป ที่แตกต่างและต้องการสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์ หมู่เกาะโลโฟเทนคือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด

ประวัติและความสำคัญของหมู่เกาะโลโฟเทน

หมู่เกาะโลโฟเทนมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 6,000 ปี โดยครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการประมงสำคัญของนอร์เวย์ โดยเฉพาะการจับปลาค็อดซึ่งยังคงเป็นส่วนสำคัญในวิถีชีวิตของชาวบ้านจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่ทำให้โลโฟเทนโดดเด่นคือภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ ภูเขาสูงที่ยื่นลงสู่ทะเลโดยตรง ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่งดงามตลอดทั้งปี

นอกจากธรรมชาติแล้ว โลโฟเทนยังเป็นแหล่งศิลปะและวัฒนธรรมที่สำคัญ โดยมีแกลเลอรีและงานศิลป์กระจายอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความเงียบสงบและวิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว

กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อไปโลโฟเทน

1. ชมแสงเหนือ (Northern Lights)
ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเมษายน โลโฟเทนเป็นหนึ่งในจุดชมแสงเหนือที่สวยที่สุดในโลก เพราะมีท้องฟ้าที่มืดสนิทและไม่มีมลภาวะทางแสง ทำให้มองเห็นแสงสีเขียว สีน้ำเงิน และม่วง เต้นรำบนฟ้าอย่างชัดเจน

2. ปีนเขาและเดินป่า
โลโฟเทนเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าและปีนเขาที่สวยงาม เช่น เส้นทางไปยังยอดเขา Reinebringen ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่โด่งดังที่สุด สามารถมองเห็นหมู่บ้านเรน (Reine) และทะเลสาบล้อมรอบได้อย่างอลังการ

3. หมู่บ้านชาวประมงและบ้านสีแดง Rorbu
หนึ่งในภาพจำของโลโฟเทนคือบ้านไม้สีแดงที่เรียกว่า Rorbu ซึ่งเดิมเป็นบ้านของชาวประมง ปัจจุบันถูกปรับให้เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบนอร์เวย์แท้ ๆ

4. เล่นสกีและตกปลาในฤดูหนาว
ฤดูหนาวของโลโฟเทนเต็มไปด้วยกิจกรรมผจญภัย ทั้งการเล่นสกีแบบข้ามประเทศ และการตกปลาค็อด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น

5. เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง
ที่เมือง Borg มี Lofotr Viking Museum ที่จำลองวิถีชีวิตของชาวไวกิ้งโบราณ เหมาะสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์

ฤดูกาลที่เหมาะสมในการเดินทางไปโลโฟเทน

• ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) : เหมาะสำหรับการเดินป่า และชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun) ซึ่งดวงอาทิตย์จะไม่ลับขอบฟ้าเลย
• ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-มีนาคม) : เป็นช่วงชมแสงเหนือและทำกิจกรรมหิมะ
• ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง : เงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

การเดินทางไปหมู่เกาะโลโฟเทน

นักท่องเที่ยวสามารถบินไปยังสนามบิน Leknes หรือ Svolvær โดยต่อเครื่องจากออสโล หรือจะเดินทางด้วยรถไฟไปถึงเมือง Bodø แล้วต่อเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยังเกาะก็ได้ อีกวิธีที่ได้รับความนิยมคือการเช่ารถขับชมวิวตลอดเส้นทางถนน E10 ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งในโลก

ที่พักและร้านอาหาร

หมู่เกาะโลโฟเทนมีที่พักหลายแบบ ตั้งแต่บ้านไม้ Rorbu สุดคลาสสิก ไปจนถึงโรงแรมหรูริมทะเล ส่วนอาหารท้องถิ่นที่ต้องลองคือเมนูปลาค็อดสด ๆ หรือสเต็กปลาฉลามที่หาได้ยาก นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมาะสำหรับการพักผ่อน

เหตุผลที่ควรไปโลโฟเทนสักครั้งในชีวิต

หมู่เกาะโลโฟเทนไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางธรรมดา แต่คือการผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตที่สงบสุข ใครที่หลงรักทิวทัศน์แบบสแกนดิเนเวียจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม หากคุณกำลังวางแผน ทัวร์นอร์เวย์ การใส่โลโฟเทนลงในลิสต์คือสิ่งที่ต้องทำ

หมู่เกาะโลโฟเทนคือสถานที่ที่ให้ประสบการณ์แตกต่างจากการท่องเที่ยวทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการชมแสงเหนือ พระอาทิตย์เที่ยงคืน หรือการสัมผัสวัฒนธรรมของชาวประมงอย่างใกล้ชิด ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และจะทำให้การเดินทางของคุณกลายเป็นความทรงจำที่ล้ำค่า