ทัวร์จีน GOLDEN LAND เส้นทางสายไหม ใบไม้เปลี่ยนสี หลานโจว จิ่วฉวน ตุนหวง

23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน CHINA EASTERN AIRLINES เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

หมายเหตุ :การจัดที่นั่งของสายการบินเป็นระบบ Random ไม่สามารถล็อคที่นั่งล่วงหน้า อาจจะไม่ได้ที่นั่งติดกัน หรือ นั่งคนละโซนซึ่งเป็นไปตามการจัดการของสายการบิน : เคาน์เตอร์เช็คอินปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออก 60 นาทีและไม่มีประกาศเตือนผู้โดยสาร ขึ้นเครื่องดังนั้นผู้โดยสารจำเป็นต้องพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 45 นาที ***

02.00 น. ออกเดินทางสู่นครหลานโจว โดยเที่ยวบินที่ MU894 บริการอาหารและเครื่องดื่ม

07.00 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติจงฉวน นครหลานโจว เมืองหลวงของมณฑลกานซู อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เป็นมณฑลสำคัญในเส้นทางสายไหม ซึ่งพาดผ่านจากตะวันออกไปสู่ตะวันตกของมณฑล รวมระยะทางกว่า 1,600 กิโลเมตร หลานโจวตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตัวเมืองล้อมรอบด้วยภูเขา คือ ภูเขาเกาเหลาซานในทิศเหนือ และ ภูเขาฟ่งหวงในทิศใต้ โดยมีแม่น้ำหวงเหอซึ่งมีต้นกำเนิดจากแม่น้ำบนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบตไหลผ่านกลางเมือง ในสมัยราชวงศ์ฮั่นมีชื่อเมืองว่า เมืองจินเฉิง และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นหลานโจวจนถึงปัจจุบัน หลังรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก ...พักผ่อนอิริยาบถตามอัธยาศัย

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านไปชมประติมากรรมแกะสลักหวงเหอหมู่ชิง หรือที่เรียกกันว่า อนุสาวรีย์มารดาแห่งแม่น้ำเหลือง ผลงานการแกะสลักจากหินแกรนิตของศิลปินหญิงที่ชื่อ เหอเอ้อ โดยแกะสลักเป็นแม่ที่กำลังนอนมองลูกน้อยที่นอนอิงแอบอยู่ข้างๆ ด้วยแววตาที่สื่อถึงความรักความอบอุ่นของแม่ที่มีต่อลูก แกะแล้วเสร็จในปี 1986 มีความยาว 6 เมตร กว้าง 2.2 เมตร สูง 2.6 เมตร และมีน้ำหนักรวม 60 ตัน

จากนั้นนำท่านไปยัง สวนสุ่ยเฌอหยวน หรือที่รู้จักในนาม สวนกังหันวิดน้ำโบราณสุ่ยเฌอ ตั้งอยู่ในเขตเมืองหลานโจว โดยทั้งสองฟากของแม่น้ำหวงเหอ จะมีกังหันวิดน้ำโบราณมากมายตั้งอยู่กว่า 252 กังหัน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวหลานโจว จนหลานโจวได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งกังหันน้ำของจีน” ….. นำท่านชม สะพานเหล็กจงซาน ซึ่งเป็นสะพานโครงเหล็กที่ตั้งอยู่ในเขตเฉิงกวน สร้างเสร็จแล้วเปิดใช้ในวันที่ 19 สิงหาคม 2452 ของราชวงศ์ชิง และสะพานแห่งนี้ได้กลายเป็นสะพานข้ามแม่น้ำหวงเหอแห่งแรกของประวัติศาสตร์หลานโจว

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก GRAND SOLUXE HOTEL GANSU ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองจิ่งไท่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลกานซู เป็นที่ตั้งของ เมืองโบราณหย่งไท่ หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เมืองเต่าหยงไถ” ซึ่งในอดีตเมืองโบราณแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหน้าด่านของราชวงศ์หมิง มีอายุกว่า 500 ปี โดยมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะคือ ถ้ามองจากมุมสูงเมืองโบราณแห่งนี้จะมีการสร้างกำแพงเมืองและป้อมที่มีลักษณะคล้ายเต่า ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคำกล่าวในดาราศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโบราณว่า "ท้องฟ้ากลม และโลกกลม" ประการแรก กระดองของเต่าจะกลมประมาณเหมือนกับ "ท้องฟ้า" ประการที่สอง กระดองหน้าท้องของเต่า มีขนาดประมาณสี่เหลี่ยมจัตุรัสคล้าย "โลก" ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้า ดวงดาว และดวงดาวอื่นๆ ปกคลุมท้องฟ้า ซึ่งหมายความว่าเต่าสามารถถ่ายทอดวิถีแห่งสวรรค์ได้ และอีกเหตุผลในการสร้างเมืองนี้นั้นเพื่อเอาไว้ปกป้องอาณาจักรฮั่นจากชนกลุ่มน้อยทั้งหลายที่ต้องการเข้ามารุกรานในสมัยต้นราชวงศ์หมิง หลังจากสร้างเสร็จแล้วก็ได้กลายมาเป็นป้อมปราการที่สำคัญของอาณาจักรฮั่น

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางไปยัง อุทยานป่าหินแม่น้ำหวงโห หรือ ป่าหินแม่น้ำเหลือง ซึ่งเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกมากว่า 4,000 ล้านปี มีพื้นที่รวมประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร มีความสวยงามพอกับป่าหินแห่งยูนนาน ประกอบด้วยหินงอกทรายและเสาหินสูงประมาณ 100 เมตร และบางต้นมีความสูงถึงกว่า 200 เมตรหลากหลายขนาด, รูปทรงและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากน้ำและลมกัดเซาะมาเป็นเวลายาวนานทำให้ป่าหินดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก JINGTAI HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมือง อู่เวย เมืองต้นกำเนิดไวน์จีน และเคยเป็นเมืองหลวงเก่าสมัยราชวงศ์ซีเซี่ย (ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง 30นาที) .....นำท่านเที่ยวชม ถ้ำจำหลักเทียนทีซาน เดิมชื่อถ้ำเหลียงโจว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเหลียงโจว เมืองอู่เวย มณฑลกานซู่ ของประเทศจีน เป็นถ้ำหินแกะสลักที่มีอายุกว่า 1,600 ปี ถือได้ว่าเป็นถ้ำหินแกะสลักที่มีความเก่าแก่ที่สุดของจีน โดยสร้างขึ้นในสมัยจิ้นตะวันออก ภายในมีการแกะสลักเป็นพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่มากมายกว่า 100 องค์ เก็บรักษาไว้ภายในถ้ำและภาพจิตรกรรมฝาผนังกว่าร้อยตารางเมตร

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเที่ยวชม สุสานฮั่นเหลยไถ เป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุจำนวนมากจากสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกที่ได้จากการขุดค้นพบหลุมฝังศพแม่ทัพสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกโดยบังเอิญในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1969 โดยเฉพาะ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ “หม่าท่าเฟยเอี้ยน” หรือ “ม้าเหยียบนกนางแอ่นเหินลม” รูปหล่อทองเหลืองอาชาผยอง ม้าสวรรค์จากแถบตะวันตก และเป็นสุดยอดปรารถนาของจักรพรรดิในสมัยราชวงศ์ฮั่น มีรูปลักษณ์สง่างามในท่วงท่ากำลังกระโจนทะยานมุ่งไปเบื้องหน้าอย่างทระนงองอาจ เท้าทั้งสามกำลังเหาะหินอยู่กลางนภา เท้าที่สี่เหยียบอยู่เหนือตัวนกนางแอ่นที่กำลังถลาลม มีรูจมูกเปิดกว้าง และปากกำลังพ่นควันระบายออกมา “หม่าท่าเฟยเอี้ยน” คือสัญลักษณ์ของเมืองอู่เวย และเป็นโลโก้ของของการท่องเที่ยวประเทศจีน

จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง วัดพระกุมารชีวะ พุทธสถานสำคัญเมืองอู่เวย เป็นที่ตั้งของเจดีย์สำคัญที่ประดิษฐานชิวหาธาตุของพระกุมารชีวะ พระภิกษุนักวิชาการ และนักแปลจากกูชา โดยได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักแปลทางศาสนาพุทธที่ดีที่สุดของในจีน โดยงานแปลของท่านนั้นไม่มีใครเทียบได้ทั้งด้านเทคนิคการแปลหรือระดับความเที่ยงตรง โดยท่านได้แปลพระสูตรครั้งใหญ่ในสมัยของยุค5ชนเผ่า16แคว้น หรือสมัยของจิ้นตะวันตก(คศ.304-439)

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก TIANMA PEARL HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมือง จางเย่ (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) ซึ่งเคยเป็นเมืองที่ตั้งค่ายทหารสำคัญของเส้นทางสายไหม เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างมาก คือ ภูเขาสายรุ้งตันเสีย (Danxia Landform) ซึ่งได้รับการขี้นทะเบียนเป็นมรดกโลกยูเนสโก้ ในปี ค.ศ. 2010 และจัดตั้งเป็นอุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติในปี ค.ศ.2011 เนื้อที่ประมาณ 300 ตร.กม. อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร นำท่านเที่ยวชมวัดต้าฝอซื่อ ตั้งอยู่ในเขตก้านโจว เมืองจางเย่ สร้างขึ้นในปี 1098 สมัยราชวงศ์เซี่ยตะวันตก เดิมมีชื่อว่าวัดกัสปะตถาคตา และได้มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดพระใหญ่ ในปีที่ 17 ของการขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิง เนื่องจากที่วัดแห่งนี้เป็นทีประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ โดยมีความยาว 34.5 เมตร ถือเป็นพระพุทธไสยาสน์ในร่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเที่ยวชมทัศนียภาพของ ภูเขาสายรุ้งตันเสีย บนเส้นทางบันไดขึ้นเขาที่จัดสร้างไว้เป็นอย่างดี ด้วยลักษณะเป็นแนวเขา ประกอบไปด้วยหินทรายและแร่ธาตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเมื่อ 24 ล้านปีก่อน และถูกกัดเซาะด้วยสายลม แสงแดด น้ำฝนนานนับพันปี จนเกิดสีสันหลากหลายพาดผ่านแนวภูเขาสลับซับซ้อน ทั้งขาว,เหลือง,ส้ม,น้ำตาล และแดง สวยงามเสมือนภาพวาดมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สะดุดตาแก่นักเดินทาง และนักท่องเที่ยวสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก XIN SHENYUE INTERNATIONAL HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองจิ่วฉวน (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองระดับจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดอยู่ภายใต้การปกครองของมณฑลกานซู่ ประเทศจีน มีพื้นที่ประมาณ 168,080 ตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 1 ล้านกว่าคน จัดเป็นเมืองสำคัญแห่งหนึ่งของเส้นทางสายไหม ภายหลังจากการถดถอยของเส้นทางสายไหม ความสำคัญของเมืองจิ่วฉวนก็ลดลงเช่นกัน แต่หลังจากการเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองจิ่วฉวนได้ก่อตั้งฐานน้ำมันแห่งแรก และได้กลายเป็นเขตอุตสาหกรรมนิวเคลียร์และฐานการบินและอวกาศที่สำคัญ

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางไปยัง อุทยานป่าไม้หูหยาง บริเวณ ทะเลทรายจินถ่า มีพื้นที่หลายหมื่นเอเค่อร์ และมีปริมาณต้นหูหยางหนาแน่นใหญ่ที่สุดทั้งด้านขนาดและทัศนียภาพที่สวยงามที่สุด โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นหูหยางจะเปลี่ยนจากใบสีเขียวเข้มเป็นใบสีเหลืองอ่อนและสีเหลืองทองสดใสราวกับพระอาทิตย์ใต้ท้องฟ้าสีครามอยู่ในทะเลทรายอันแห้งแล้ง

ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองเจียยวี่กวน (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก JIUGANG HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม กำแพงเมืองจีน ณ ป้อมปราการด่านเจียยวี่กวน สร้างขึ้นในสมัยต้นราชวงศ์หมิง ค.ศ.1372 เป็นด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีนที่ทอดตัวยาวจากด่านซานไห่กวน ทางทิศตะวันออก รวมระยะทางยาวทั้งสิ้นจากตะวันออกถึงตะวันตก 12,700 ลี้ ความยาวของตัวด่าน 733 เมตร สูง 10 เมตรโดยใช้อิฐสีเหลืองนวลที่หาได้ในแถบนี้ ซึ่งต่างจากด่านแถวปักกิ่งที่เป็นหินสีเทา โดยนายช่างผู้ควบคุมการก่อสร้างได้สั่งอิฐมาใช้ในการสร้างเกินมาเพียงก้อนเดียวเท่านั้น ปราการด่านนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น ด่านแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า ....บริเวณป้อมปราการแบ่งออกเป็นพื้นที่เมืองชั้นใน กับพื้นที่ชั้นนอกกำแพง และมีอาคารเก่าแก่ที่อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ปัจจุบันพื้นที่ชั้นใน มีลานแสดงศิลปะการต่อสู้, โรงละครจีนโบราณและสิ่งน่าสนใจหลายแห่ง.....

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านออกเดินทางสู่ ตุนหวง (ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศจีน และเป็นจุดแวะพักของคาราวานพ่อค้าและนักเดินทางที่สำคัญจุดหนึ่งของเส้นทางสายไหม ทำให้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อของอารยธรรมตะวันตกและอารยธรรมจีน และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์โบราณ และมรดกโลกยูเนสโก้

เดินทางถึงตุนหวง......จากนั้นนำท่านอิสระเที่ยวชมบรรยากาศยามค่ำคืน ณ ตลาดซาโจว ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ร้านผลไม้, ร้านสินค้าของที่ระลึก, เครื่องประดับคริสตัล, ตุ๊กตาสัตว์ งานจิตรกรรม

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก GRAND SUN HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ หมิงซาซาน หรือ เนินทรายครวญ เกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ด้วยที่ตั้งของหมิงซาซาน เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาฉีเหลียน และรับลมจากทะเลทรายโกบีของมองโกเลีย เมื่อลมพัดจากทะเลทรายมาปะทะกับภูเขา ก็หอบเอาทรายเม็ดเล็กๆติดตามด้วย จนกลายเป็นเนินทรายกว้างใหญ่และรุปร่างของหมิงซาซาน เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสลมที่พัดผ่าน มีตำนานเล่าว่าเคยมีกองทหารมาแวะพักบริเวณนี้ และได้ถูกพายุทรายพัดฝังกลบกองทหารให้อยู่ใต้ภูเขาทราย เวลาลมพัดมาก็จะได้ยินเสียงร้องของทหาร.....ไฮไลท์ของที่นี่ !!! ให้ท่านได้ขี่อูฐสองหนอก (พันธุ์ซินเจียงสัญลักษณ์คู่ของหมิงซาซาน เพื่อเดินเที่ยวชมบรรยากาศ และทัศนียภาพอันงดงามของหมิงซาซาน

จากนั้นนำท่านชม เย่วหยาฉวน หรือ สระน้ำเสี้ยวจันทรา สระน้ำกลางทะเลทราย มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ความลึกของสระเฉลี่ย 3.2 เมตร น้ำใสเหมือนกระจก และไม่เคยเหือดแห้งไปนับตั้งแต่โบราณ ยามต้องแสงอาทิตย์เกิดเงาระยิบระยับสวยงาม.....

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านไปชม ถ้ำผาโม่เกาคู เป็นถ้ำทางพุทธศาสนาที่สำคัญและเป็นมรดกโลกอันยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศจีน นับตั้งแต่เริ่มสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 4-14 ( ราชวงศ์เว่ยเหนือ – ราชวงศ์หยวน) ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนาของมนุษย์ จึงได้ทำการเจาะผนังหินทรายบนหน้าผาของภูเขาหมิงซา ซึ่งสูงจากพื้นดินประมาณ 50 เมตร ยาวกว่า 12 กิโลเมตร สร้างเป็นถ้ำน้อยใหญ่รวม 492 ถ้ำ, รูปปั้น 2,415 รูป และภาพจิตรกรรมบนฝาผนังและเพดาถ้ำอันงดงามที่ถูกวาดไว้แตกต่างกันไปตามยุคสมัย....ทำให้ถ้ำผาโม่เกาคู กลายเป็นศาสนสถานที่สำคัญบนเส้นทางสายแพรไหม

ได้เวลาสมควรนำท่านไปยังสนามบินตุนหวง

17.00 น. ออกเดินทางกลับหลานโจวโดยเที่ยวบินที่ MU6834

19.00 น. เดินทางถึงสนามบินจงฉวน นครหลานโจว แวะพักรอเปลี่ยนเครื่อง

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ สนามบิน

22.00 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯโดยเที่ยวบินที่ MU895 บริการอาหารและเครื่องดื่ม

02.00 น.+1 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับความประทับใจ