ทัวร์ญี่ปุ่น TAKAYAMA OSAKA IZU GRANILLUMI

20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

23.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG682 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

06.55น. เดินทางถึง สนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]

เดินทางสู่ เมืองคามาคุระ เป็นเมืองชายฝั่งเล็ก ๆ ในเขตจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) ที่ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้แวะมาเยี่ยมเยือน และถูกขนานนามให้เป็น “เกียวโตแห่งฝั่งตะวันออก” เพราะว่ามีทั้งวัดและศาลเจ้าอันเก่าแก่ อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์มากมาย นำท่านสักการะ “หลวงพ่อโต” (Daibutsu) แห่งวัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) เป็นรูปหล่อโลหะที่สูง 13.35 เมตรตั้งอยู่กลางลานวัด ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)

นำท่านนั่งกระเช้าขึ้นสู่ ภูเขาโอมุโระ (Mount Omuro) เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มภูเขาไฟอิซุ ก่อตัวขึ้นหลังจากการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่เมื่อประมาณ 4,000 ปีที่แล้ว ในตอนต้นของยุคโจมงตอนปลาย (2470–500 ก่อนคริสตศักราช) จากการปะทุของลาวาในครั้งนั้นได้เกิดเป็นแนวชายฝั่ง Jogasaki ที่อยู่ใกล้เคียง ด้วยรูปทรงกรวยที่เรียบลื่นเหมือนชามคว่ำของภูเขาโอมุโระ ทำให้ที่นี่เป็นจุดสังเกตที่ยอดนิยม และมีความเชื่อกันว่ามีเทพเจ้าที่อ่อนโยนและห่วงใยประดิษฐานอยู่ภายในภูเขาปล่องภูเขาไฟ บนยอดเขามีขนาดกว้างประมาณ 300 ม. มีเส้นรอบวง 1,000 ม. และลึก 70 ม. มีทางเดินรอบปากปล่องภูเขาไฟสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบแบบพาโนรามา 360 รวมถึงเมืองอิโตะ หมู่เกาะอิสุ และภูเขาอามางิในวันที่อากาศแจ่มใสคุณยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิและเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนใต้ได้อีกด้วย

หมายเหตุ: ในกรณีที่ ไม่สามารถขึ้นได้เนื่องจากสภาพอากาศ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนโปรแกรมทัวร์เป็น สวนสัตว์อิซุซาโบเท็น เป็นสวนสัตว์เปิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาโอมุโระ

เทศกาลประดับไฟ อิซุโคเก็น แกรนอิลูมิ (Izukogen Granillumi) ณ สวนอิซุแกรนพาล (Izu Granpal Park) ที่จังหวัดชิซูโอกะ อีกหนึ่งงานประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ ที่เคยคว้ารางวัล งานประดับไฟยามค่ำคืนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นมาแล้ว 2 ปีซ้อน (ปี 2016-2017) นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับจากนิตรสาร Walker plus ให้เป็นอันดับที่ 1 ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน จุดเด่นของที่นี่ คือ ขนาดพื้นที่อันกว้างขวาง และโซนต่าง ๆ ที่แบ่งการนำเสนอออกเป็นหลากหลายธีม ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์ไฟ, สวนดอกไม้, สวนเค้ก และส่วนการจัดแสดงแสง สี เสียง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์สำหรับคนที่ชอบความหวาดเสียว อย่างการโหนสลิง (Zip line) ข้ามผ่านงานจัดแสดงไฟด้านล่าง อีกด้วย มุมมองจากบนสลิง เราจะเห็นเหมือนเป็นผืนทะเลประดับไฟ ที่ทำให้ ดูยิ่งใหญ่ อลังการ มากขึ้นไปอีกเลยทีเดียว และมีโซนเปิดใหม่ที่หากได้มาเยือนงานนี้ก็ไม่ควรพลาด ได้แก่โซนที่ชื่อว่า “Walk on the Illuminations” โดยจะมีทางเดินให้เราสามารถขึ้นไปเดินเล่นข้างบนไฟประดับได้ เมื่ออยู่บนนั้นรอบๆ ตัวเราจะเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซีเลยทีเดียว โซนนี้ยังมาพร้อมกับธีม “ความรัก” โดยมีการประดับไฟเป็นรูปหัวใจบนพื้นทั้งหมด 4 ดวง แต่ละดวงก็จะมีชื่อที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ “ดอกไม้กับดวงดาวบนฟ้า” “ดอกไม้กับทะเล” “ดอกไม้กับประเทศเขตร้อน” และ “ดอกไม้กับฤดูร้อน” เหมาะกับคู่รักที่หาที่เดตสุดโรแมนติก งานประดับไฟนี้จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)

ที่พัก ITO ONSEN AREA หรือเทียบเท่าในระดับ 3 ดาว

(ที่นอนอาจเป็นแบบ เบาะฟุตง หรือ เตียง ขึ้นอยู่กับการจัดการของทางโรงแรม)

หลังอาหารค่ำ ได้ท่านผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไค (Oshino Hakkai Village) เป็นจุดท่องเที่ยวที่สร้างเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ประกอบด้วยบ่อน้ำ 8 บ่อในโอชิโนะ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูจิโกะกับทะเลสาบยามานาคาโกะซึ่งเป็นพื้นที่เก่าของทะเลสาบแห่งที่ 6 ที่แห้งขอดไปเมื่อ 200 -300 ปีที่ผ่านมา บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ ๆ ภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ ถัดไปอีกบ่อหนึ่งนักท่องเที่ยวสามารถดื่มน้ำเย็นจากแหล่งน้ำได้โดยตรง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก บางร้านยังขายมันเทศหวานย่าง และขนมแซมเบ้ บนเตาเล็ก ๆ กลางแจ้งส่งกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มรสอีกด้วย

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchi ko) ที่เป็นหนึ่งในห้าทะเลสาบล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือต่างชาติก็ตาม มักจะมาหาที่พักผ่อนในบริเวณนี้มากกว่าทะเลสาบที่เหลืออีกสี่แห่ง ดังนั้นรอบๆ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยโรงแรม, ร้านอาหาร, และร้านขายของที่ระลึกมากมาย

สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ กิจกรรมการชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การจับถ้วยชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก และท่านยังมีโอกาสได้ลองชงชาด้วยตัวท่านเองอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)

ชมปราสาทมัตซึโมโต้ (ด้านนอก) มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปราสาทอีกา เนื่องจากผนังปราสาทมีสีดำ และปีกด้านต่างๆ ของปราสาทแผ่กางออกเหมือนปีกนก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1590 โดย อิชิคาว่า คาสุมาซะ เพื่อใช้เป็นที่พักของบรรดาเจ้าเมืองในอดีต ปัจจุบันหลังจากได้รับการจัดตั้งเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นได้ปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและประวัติศาสตร์ของ จังหวัดนากาโน่ และเป็นปราสาทที่มีความสวยงามติด 1 ใน 10 ของประเทศญี่ปุ่น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)

ที่พัก MATSUMOTO HOTEL AREA หรือเทียบเท่าในระดับ 3 ดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)

เมืองทาคายาม่า (TAKAYAMA) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่จังหวัดกิฟุ ตัวเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ มีศิลปวัฒนธรรมและสถานปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและมีธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ทาคายาม่าเป็นเมืองสวยอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น

เมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old town) หรือ ถนนซันมาจิซูจิ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่สมัยเอโดะกว่า 300 ปีก่อน ที่ยังอนุรักษ์และคงสภาพเดิมได้เป็นอย่างดี อิสระให้ทุกท่านได้เดินเที่ยวและชื่นชมกับทัศนียภาพเมืองเก่าซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนโบราณ และร้านค้าหลากหลาย เช่น ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านงานศิลปะ

ผ่านชม ทาคายาม่า จินยะ หรือ ที่ว่าการอำเภอเก่าเมืองทาคายาม่า (ไม่รวมค่าเข้าชม) ซึ่งเป็นจวนผู้ว่าแห่งเมืองทาคายาม่า เป็นที่ทำงานและที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะ เป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนตระกูลกุกาวา ในสมัยเอโดะ ตัวอาคารเป็นทั้งสถานที่ราชการ ห้องรับแขก ห้องประชุม รวมถึงห้องสอบสวนอีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7)

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์บ้านสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ดั้งเดิมและได้รับเลือกจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในเดือนธันวาคม ปี 1995 โครงสร้างของบ้านสามารถรองรับหิมะที่ตกหนักในช่วงฤดูหนาวได้ดี และรูปร่างของหลังคาเหมือนกับสองมือพนมของพระเจ้า จึงเรียกหมู่บ้านสไตล์นี้ว่า“กัสโซ”จะมีความยาวประมาณ 18 เมตร ความกว้าง 10 เมตร โดยจะมีจุดไฮไลค์ที่ไม่ควรพลาด เช่น บ้านทรงโบราณคันดะ เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของอดีตเจ้าของบ้านไว้อย่างครบถ้วน, บ้านกัสโชสึคุริ เป็นบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิมคลาสสิก, วัดเมียวเซนจิ มีสถาปัตยกรรมแบบกัสโซซึคุริ ที่มีเอกลักษณ์ที่หาชมได้ยากมากๆในญี่ปุ่น, ศาลเจ้าชิรากาวะ ฮาจิมัง มีความเก่าแก่อยู่คู่กับหมู่บ้านแห่งนี้มาอย่างยาวนาน

จากนั้นเดินทางต่อสู่ นาโกย่า เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดใน ภูมิภาคจูบุ ซึ่งอยู่ตรงกลางของประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

นำท่านช้อปปิ้ง ย่านซาคาเอะ แหล่งรวมความบันเทิงและห้างสรรพสินค้า รวมทั้งสวนสวยใจกลางเมืองแหล่งพักผ่อนกหย่อนใจและจับจ่ายใช้สอยได้อย่างเต็มที่ เช่นร้านดงกี้โฮเต ห้างสรรพสินค้าใหญ่ Parco, Matsuzakaya, LACHIC และ Mitsukoshi เป็นต้น อีกทั้งสัญลักษณ์ใจกลางเมืองอาคารสวยสง่าอย่างนาโกย่าเทเลบิทาวเวอร์ จุดเช็คอินที่ต้องไป

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก NAGOYA HOTEL AREA หรือเทียบเท่าในระดับ 3 ดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)

นำทุกท่านเดินทางสู่เมืองอุจิ (Uji) เมืองเล็กๆทีมีเสน่ห์ทางตอนใต้ของจังหวัดเมืองเกียวโต เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องชาเชียวอุจิมัทฉะ (Uji Matcha) และคาเฟ่น่ารักๆ ชาเขียวที่เมืองอุจิได้รับการยอมรับว่าเป็นชาเขียวคุณภาพดีที่สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นเมืองที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน เต็มไปด้วยวัดและโบราณสถานที่ได้รับมรดกโลกจากทาง Uneso

นำท่านชม วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก Uneso World Heritage สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอันในปี ค.ศ. 1052 จุดเด่นของวัดเบียวโดอินคือ ห้องโถ่งฟินิกซ์ (Phoenix Hall) หรือ วิหารไม้สีแดงสดตั้งอยู่ตรงใจกลางวัด ด้วยความงดงามมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วิหารแห่งนี้จึงได้รับเลือกให้ปรากฏอยู่บนเหรียญสิบเยนของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทำให้วัดแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่ขาดสาย

ถนนชาเขียว เบียวโดอิน โอโมเตะซันโด (Byodoin Omotesando) ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขนม ร้านอาหาร และคาเฟ่น่ารักๆ รวมไปถึงร้านของฝาก ที่เกือบทั้งหมดทำมาจากอุจิมัทฉะ ไม่ว่าจะเป็นซอฟครีมอุจิมัทฉะ โซบะอุจิมัทฉะ ราเมงอุจิมัทฉะ เกี๊ยวซ่าอุจิมัทฉะ ทาโกะยากิอุจิมัทฉะ และยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมายที่น่าลิ้มลองตลอดสองข้างทาง ให้ท่านได้แวะชิมรสชาเขียวอุจิต้นตำรับและยังมีขนมที่ทำจากอุจิมัทฉะให้ซื้อกลับไปเป็นของฝากด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 9)

เดินทางสู่ โอซาก้า (Osaka) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอับดับสอง และมีประชากรมากเป็นอันดับสามของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซบนเกาะฮนซู ในเขตจังหวัดโอซากะ พาท่านช้อปปิ้งย่าน โดตงโบริ (Dotonbori) นั้น ถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดโนจังหวัดโอซาก้า และยังถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีความโรแมนติกอีกด้วย เพราะย่านโดตงโบริที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งนั้น ไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนกับแหล่งช้อปปิ้งที่อื่นๆ จะเป็นเพียงถนนสายเล็กๆ ที่อยู่เลียบคลองโดตงโบริ ในช่วงเย็นๆของถนนสายนี้จะดูคึกคัก เต็มไปด้วยแสงสี และเสียงจากป้ายไฟโฆษณาต่างๆ ที่อยู่ทั้งบนตึกและริมแม่น้ำ ผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และชาวญี่ปุ่นเอง จะมาเดินช้อปปิ้ง มาทานอาหารเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบนี้กันเป็นจำนวนมาก จุดที่พลาดไม่ได้ ของย่านโดตงโบรินี้ ก็คือ ป้ายไฟกูลิโก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างมากมายบริเวณสะพานเอบิซู

ช้อปปิ้งชินไซบาชิ เต็มไปด้วยความหลากหลายของร้านค้าและแบรนด์ดังมากมายตั้งอยู่ปะปนไปกับร้านค้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ได้แก่ Apple Store, Dior, Chanel, Gucci, H&M, Herms, Louis Vuitton และอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมแทบจะทุกยี่ห้อดังทั่วโลกเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้แล้วยังมีสินค้าจำพวกอาหารและเครื่องดื่มหรือตุ๊กตาน่ารัก ๆ ก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน และนอกเหนือไปจากร้านค้าทันสมัยจากแบรนด์ต่าง ๆ แล้วที่ชินไซบาชิยังมี Shopping Arcade ที่เอาร้านค้าเล็ก ๆ มารวมไว้ภายใต้หลังคาเดียวกันมีเส้นทางยาวประมาณ 600 เมตรมีสินค้าให้เลือกสรรมากมาย อาทิ ชุดกิโมโนแบบดั้งเดิม,อัญมณีเครื่องประดับและร้านหนังสือ เป็นแหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมายให้ท่านได้ช้อปปิ้งได้จุใจ

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก OSAKA HOTEL AREA หรือเทียบเท่าในระดับ 3 ดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 10)

นำท่านสู่ ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka shrine) เป็นศาลเจ้าหัวสิงโตยักษ์ ด้วยความสูง 17 เมตร ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะจุดรับพลังงานศักดิ์สิทธิ์ ในอดีตนั้นสถานที่แห่งนี้มีความเฟื่องฟูจนถึงขีดสุด แต่ภายหลังจากการเกิดไฟไหม้ในช่วงสงครามจึงลดระดับความสำคัญลง แต่ก็มีการบูรณะเปิดใหม่อีกครั้งในภายหลัง โดยที่หัวสิงโตขนาดใหญ่ที่นับเป็นลักษณ์ของศาลเจ้าแห่งนี้ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2518 เช่นเดียวกันกับสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่มีการบูรณะขึ้นใหม่หลังได้รับความเสียหายเนื่องจากสงคราม ซึ่งมีความเชื่อว่าปากของสิงโตนั้นจะช่วยกลืนกินสิ่งที่ไม่ดี ปัดเป่าความชั่วร้ายให้หายไปและนำพาโชคลาภเข้ามา คนส่วนใหญ่ที่มาสักการะมักขอพรเรื่องการเรียนหรือด้านการงานให้เกิดความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง

ช้อปปิ้ง อิออน มอลล์ ริงกุ เซ็นนัน (AEON MALL) ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้าน เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade, ร้านขายอุปกรณ์กีฬา และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เก็บจัดการลิสต์ของฝากมาจากคนที่บ้านได้อย่างครบครันเต็มที่

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่ สนามบินคันไซ

นำทุกท่านทำการ CHECK IN และโหลดสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

17.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG673 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

22.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ