ทัวร์ตุรเคีย ซาอุดิอาระเบีย Summer Odyssey TURKIYE & SAUDI ARABIA

22.00 คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ ประตูทางเข้า หมายเลข 8-10 เคาน์เตอร์สายการบิน Saudia Airlines เคาน์เตอร์ Q เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ

01.50 ออกเดินทางสู่ กรุงเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยสายการบิน Saudia Airlines (SV) เที่ยวบินที่ SV 849 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8.15 ชั่วโมง)

06.05 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ King Abdulaziz International Airport ณ กรุงเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)

09.55 ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน Saudia Airlines (SV) เที่ยวบินที่ SV 257 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.50 ชั่วโมง)

13.45 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ Istanbul International Airport ณ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองบาลิเคเซอร์ (ระยะทาง 320 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอเลียกา (ระยะทาง 164 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเขตปกครองของ จังหวัดอิซเมียร์ ซึ่งเป็นมหานครในปลายสุดทางตะวันตกของแคว้นอานาโตเลีย เป็นเมืองอันดับสามที่มีประชากรมากที่สุดของประเศตุรเคีย เป็นเมืองริมทะเลอีเจียนที่ล้อมรอบไปด้วยหุบเขา ในอดีตเป็นท่าเรือการค้าที่สำคัญของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของจักรวรรดิออตโตมัน เป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจที่ทันสมัย และเป็นเมืองที่มีกลิ่นอายความเป็นยุโรปเมดิเตอร์เรเนียน

พักค้างคืน ณ Radisson Blu Aliaga Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสเม่ Cesme (ระยะทาง 164 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลอีเจี้ยน อยู่ไม่ไกลจาก เกาะคีออส Chios Island ของประเทศกรีซ ด้วยทำเลที่ตั้งของเมืองอยู่ไม่ไกลจากประเทศกรีซ จึงทำให้ได้รับอิทธิพลจากกรีซพอสมควร จึงทำให้บ้านเรือน รวมไปถึงร้านรวงต่าง ๆ จะตกแต่งสไตล์กรีก

นำท่านเดินเล่นชมเมืองที่นักท่องเที่ยวต่างให้คำนิยามว่า “เมืองรักโรแมนติก ของดินแดนแห่งสองทวีป” ตื่นตาตื่นใจกับท่าเทียบเรือยอร์ช ที่จอดเรียงราย และเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย นำท่าน เข้าชม ปราสาทเชสเม่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของการเที่ยวเที่ยวตุรเคีย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน เมืองเชสเม่จะคึกคักเป็นพิเศษ ปราสาทแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ในรัชสมัยของสุลต่านบาเยซิตที่ 2 แห่งออตโตมัน ปราสาทเชสเม่ ได้ถูก ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของตุรเคียในปี ค.ศ. 2020 วิวจากด้านบนปราสาทนั้นมีความสวยงามอลังการ ภายในปราสาทจัดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของใช้เก่าแก่กว่าหลายร้อยปี ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองอลาชาติ Alacati (ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

อิสระให้ท่านได้เดินเล่นสำรวจ เมืองอลาชาติ Alacati เก็บภาพสวย ๆ กับถนนคนเดินภายในหมู่บ้าน ตามตรอกซอกซอยที่มีลักษณะคล้ายกับกรีก บ้านสีขาว ประตูสีฟ้า เนื่องจากเมืองอลาชาตึ อยู่ไม่ไกลจากเมืองเชสเม่ จึงทำให้เมืองนี้ยังคงมีกลิ่นอายคล้านเกาะซานโตรินี่ของประเทศกรีซ บ้านเรือน รีสอร์ท รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหาร ต่างออกแบบตกแต่งไสตล์กรีก ส่วนใหญ่จะทาสีฟ้า ขาว โทนเดียวกันกับรีสอร์ทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะซานโตรินี่ ฟินแล้วฟินอีก อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึก ได้ตามอัธญาศัย ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอาเลียกา (ระยะทาง 163 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ณ Radisson Blu Aliaga Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่ามาตรฐานตุรเคีย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงอิสตันบูล (ระยะทาง 439 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเข้าชม ร้านพรม Carpet Factory ตุรเคีย ถือว่ามีชื่อเสียงในเรื่องของการผลิตพรม โดยที่พรมส่วนใหญ่ของตุรเคียนั้นจะมีชื่อเสียงเลื่องลือติดระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น พรมที่ทอจากขนสัตว์ หรือ พรมที่ทที่ทอจากฝ้าย และพรมที่ทอจากไหม ล้วนมีมีฝีมือประณีต จากนั้นเราไปต่อกันที่ย่าน หอคอยกาลาตา Galata Tower (ไม่รวมค่าขึ้นหอคอย) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้กับชายฝั่ง Golden Horn ทั้งนี้ในอดีตหอคอยแห่งนี้ใช้เป็นที่สังเกตการณ์ข้าศึกที่จะเข้ามาโจมตีจากทางทะเล เดินเล่นบริเวรรอบๆ หอคอยก็จะมีร้านอาหาร ร้านค้าเฟต์ มากมายเรียงรายอยู่ริม 2 ฝั่งถนนคนเดิน ดื่มด่ำกับกับบรรยากาศดั้งเดิมแบบเรียบง่าย ถ่ายภาพกับสีสันที่สวยงามของร้านค้ากับฉากหลังของ หอคอยกาลาตา ที่สูงตระหง่าน นับเป็นอีกหนึ่งของความทรงจำทีดีที่ไม่ควรพลาด

ส่งท้ายกันด้วยช้อปปิ้งย่าน จัตุรัสทักซิมสแควร์ Taksim Square ตั้งอยู่ใน ย่านเบโยกลู Beyoglu ในเขตยุโรปของนครอิสตันบูล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และถือเป็นหัวใจของนครอีสตันบูล สมัยใหม่ เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมสาธารณะ เช่น ขบวนพาเหรด ในการเฉลิมฉลองปีใหม่ หรือการพบปะทางสังคม มีสถานบันเทิง ร้านค้าตกตกแต่งหลากหลายสไตล์ คาเฟต์นั่งชิลด์ ชิลด์ เป็นถนนที่ไม่เคยหลับใหล จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ไฮไลท์ที่สำคัญของ Taksim Square อีกอย่างหนึ่งก็คือ รถรางสีแดงแสด ที่วิ่งจากจัตุรัสทักซิมไปตามถนนใกล้กันกับสถานีทูเบล ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่เก่าแห่งหนึ่งในกรุงอิสตันบูล

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารไทย Chok Chok Thai Restaurant

พักค้างคืน ที่ Ramada by Wyndham Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม ฮิปโปโดรม Hippodrome หรือ สนามแข่งม้าโบราณ มีเสาโอเบลิสค์ซึ่งเหลือแค่ส่วนปลายที่ยาว 20 เมตร แต่กระนั้นก็ยังสวยงามน่าดูมาก เพราะทั้งเสามีงานแกะสลักอันมีความหมายและมีค่ายิ่ง จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque ที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด Minaret 6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ นำท่านเข้าชมสถานที่ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สุเหร่าเซนต์โซเฟีย Mosque of Hagia Sophia ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ภายในมีเสางามค้ำที่สลักอย่างวิจิตร และประดับไว้งดงาม 108 ต้น นำท่านชม แฟชั่นโชว์ของ ศูนย์ผลิตเสื้อหนัง คุณภาพสูงของตุรเคีย ชมแฟชั่นโชว์สวยๆ งามๆ ของเหล่าบรรดานายแบบ นางแบบตุรเคีย

เที่ยง รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน Chinese Restaurant

นำท่าน เข้าชม พระราชวังโดลมาบาเช่ Dolmabahce Palace เป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองใด ๆ ทั้งสิ้น ภายนอกประกอบด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก ๆ ที่ ช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus ภายในประกอบด้วยห้องหับต่าง ๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรงแก้วเจียระไน และโคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ฯลฯ นำท่านซื้อของฝากที่ร้านขนมหวานที่ขึ้นเชื่อของตุรเคีย Turkish Delight เป็นร้านขายขนมหวานที่ขึ้นชื่อของตุรเคีย ไม่ว่าจะเป็น บัคลาว่า ที่เป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก หรือจะเป็นอินทผาลัม ที่มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ และสินค้าอื่น ๆ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Fish Restaurant at Galata Bridge

พักค้างคืน ที่ Ramada by Wyndham Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ Istanbul International Airport

13.25 ออกเดินทางสู่ เมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดย Saudia Airlines (SV) เที่ยวบินที่ SV 258 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.25 ชั่วโมง)

16.50 เดินทางถึง ท่าอากาศยาน Mohammad Bin Abdulaziz Airport ณ กรุงมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านนั่งรถผ่านชมเหล่าศาสนสถานที่สำคัญ ๆ ต่างของมหานครมาดีนะห์ เช่น มัสยิดอัลนาบาวี เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สำคัญที่สุดในเมืองมาดีนะห์และเป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์อิสลาม เป็นบ้านเกิด และเป็นที่ฝังศพของท่านศาสดามูฮัมมัด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับสองรองจากมัสยิดอัลฮารอมในเมืองมักกะห์ Masjid al-Haram นำท่านสู่ ห้างสรรพสินค้า Bin Dawood เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองมาดีนะห์ ตั้งอยู่ใกล้กับ มัสยิดอัลนาบาวี อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

พักค้างคืน ณ โรงแรม Millennium Madinah Airport Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่งรถโค้ชสู่ เมืองอัลอุลา (373 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง) เมืองอัลอุลานั้นได้ถูกจัดให้ เป็นเมืองมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก UNESCO World Heritage Site แห่งแรกของประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายลึกลับในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ที่มีความรุ่งเรืองที่ยาวนานกว่า 7,000 ปีมาแล้ว

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านชม Maraya Concert Hall ตึกกระจก ที่ Guinness book ให้การรับรองว่าเป็น อาคารกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ใช้เวลาสร้างเพียงแค่ 2 เดือน ครึ่ง ก็แล้วเสร็จ ใช้คนงานประมาณ 1,000 คน ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน เป็นหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองอัลอุลา ที่สำคัญเรียกว่าใครมาเมืองอัลอุลาแล้ว จะพลาดไม่ได้เลย ลองจินตนาการดูว่า หากตัวท่านได้ไปยืนโพสต์ท่าสวยๆ เท่ห์ๆ อยู่ตรงหน้าอาคารกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่ตัวอาคารนั้นจะเต็มไปด้วยภาพสะท้อนวิวทิวทัศน์ของภูเขา โตรกหินรูปทรงต่าง ๆ ท่ามกลางทะเลทรายอาราเบียน รับรองได้เลยว่าเป็นภาพงดงามสุดอลังการรับรองได้เลยว่าเป็นภาพที่ไม่เหมือนที่ใหนบนโลกใบนี้อย่างแน่อน จากนั้นนำท่านสู่ หินรูปช้าง Elephant Rock หรือในภาษาอาหรับเรียกว่า Jabal AlFil เป็นหินที่มีรูปร่างเหมือนช้างขนาดใหญ่ ยืนเอางวงค้ำพื้นทะเลทรายอยู่ มีความสูง 52 เมตร และมีฉากหลังเป็นภูเขาหินทราย อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย สุดหรู Saffron Banyan Tree AlUla

อิ่มอร่อยกับรสชาติอาหารไทยแท้ 100% กับเชฟ คนไทย บอกได้เลยว่าที่นี่สุดจริงๆ สำหรับอาหารไทย หลังอาหารค่ำพาท่านเดินเล่น ย่านเมืองเก่าอัลอุลา AlUla Old Town กับความรู้สึกของการย้อนยุคในโลกอาหรับโบราณ ชมบรรยากาศเมืองเก่าที่มีบ้านเรือน ตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ที่ได้รับการบูรณะปรับปรุงซ่อมแซมมาจากดิน เป็นเมืองโบราณผ่านอดีตกาลที่ยาวนาน ที่บ้านเรือนและตัวอาคารต่าง ๆ ที่ถูกสรรสร้างขึ้นมาจากดินโคลนจริง ๆ มีกำแพงเมืองล้อมรอบ มันช่างเป็นความรู้สึกที่มีความพิเศษกับห้วงเวลา ณ ตอนนี้ ที่เรานำตัวของเรามาอยู่ใน ณ ห้วงเวลาที่ช่างวิเศษจริง ๆ ให้ท่านได้มีเวลาเดินเล่น เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึก หรือจะเลือกซื้อชุด เครื่องแต่งกายสไตล์อาหรับ ได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน Alula International Airport

04.10 ออกเดินทางสู่ กรุงเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยสายการบิน Saudia Airlines (SV) เที่ยวบินที่ SV 1633 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.25 ชั่วโมง)

05.35 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ King AbdulAziz International Airport ณ กรุงเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)

11.55 ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Saudia Airlines (SV) เที่ยวบินที่ SV 848 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8.15 ชั่วโมง)

23.55 เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ