21.30 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน EMIRATES (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร
01.35 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK385
04.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
08.40 น. นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เที่ยวบินที่ EK087
13.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) เดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ระยะทาง 52 ก.ม. / 1 ชม.) ชื่นชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิตที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 สัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติก สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ทอดข้ามผ่าน แม่น้ำรอยส์ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์นเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซาน (Lausanne) (ระยะทาง 216 กม. / 3.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงของโอลิมปิคโลกและยังเคยเป็นเมืองที่ในหลวง รัชการที่ 9 เคยประทับและทรงเล่าเรียน ที่นี่
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่1)
ที่พัก : B&B Hotel Lausanne Crissier หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่2)
ถ่ายรูปกับ ศาลาไทย (Pavillon Thalandais) ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) (ระยะทาง 19 กม./ 30 นาที) เมืองที่แสนโรแมนติก ถูกขนานนามให้เป็นไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส Pearls of the Swiss Riviera แวะถ่ายรูปกับจุดไฮไลท์ของเมืองรูปปั้น “ชาร์ลี แชปลิน” (Chaplin Statue) ชาวอังกฤษที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกาที่มีความหลงใหลและท่านเลือกเวเว่ย์เป็นสถานที่พักกายใจในบั้นปลายของชีวิต และ The Fork หรือ ส้อมยักษ์ เป็นอีกแลนด์มาร์คสุดแปลกตาที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) (ระยะทาง 150 กม. / 2.30 ชม.) จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านเซอร์แมท (Zermatt) ด้วย Shuttle Train จากสถานีรถไฟทาซสู่สถานีรถไฟเซอร์แมท (ราคาทัวร์รวมค่าโดยสารสำหรับการเดินทางสู่เซอร์แมทแล้ว) ให้ท่านเดินเที่ยวชมหมู่บ้านเซอร์แมทที่มีบรรยากาศสบายๆ ล้อมด้วยเขาสูงสวยงาม เป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น จากเมืองด้านล่างนี้ถ้าสภาพอากาศดีท่านจะสามารถมองเห็น ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น(Zermatt) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส เป็นสามเหลี่ยมคล้ายปิรามิดที่จุดสูงสุดบนยอด และมีความโดดเด่นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้เคยเป็นโลโก้ของช็อคโกแล็ตดังทับเบอร์โรน ให้เวลาท่านอิสระเลือกเดินชมบรรยากาศความสวยงามของหมู่บ้านเซอร์แมทตามอัธยาศัย (กรณีการตกของหิมะ ตกไวหรือตกช้า และ ปริมาณหิมะมากหรือปริมาณน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในแต่ละปี)
เลือกซื้อ Optional tour!! นั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn หรือที่รู้จักกันในชื่อ รถไฟไต่เขา ขึ้นสู่ยอดเขากอร์นเนอร์แกรต (Gornergrat) เพื่อชมความสวยงามของยอดเขา Matterhorn โดยรถไฟเริ่มปีนไต่ระดับขึ้น ระหว่างทางมีไฮไลท์ของธรรมชาติพร้อมวิวของ Matterhorn ซึ่งส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะเกือบตลอดทั้งปี (ค่านั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn ไม่รวมในค่าทัวร์)
เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
จากนั้นเดินทางสู่ สถานีทาซ ด้วย Shuttle Train จากสถานีรถไฟหมู่บ้านเซอร์แมท (Zermatt) เพื่อนำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของยอดเขาทาซก็มีเสน่ห์ในตัวเอง ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ในสวิตเซอร์แลนด์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่3)
ที่พัก : Hotel Mountime หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่4)
เดินทางสู่ เมืองโคโม่ (Como) (ระยะทาง 225 กม./ 4 ชม.) ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โคโม่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่5)
พาทุกท่านไปเก็บภาพความประทับใจกับ ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) มีรูปร่างลักษณะเฉพาะทำให้นึกถึงอักษรตัว Y กลับด้าน ที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นผลมาจากการละลายของธารน้ำแข็งรวมกับการกัดเซาะของแม่น้ำ Adda โบราณทำให้เกิดทางแยกเป็นตัว Y และยังเป็นทะเลสาบมีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
นำท่านเดินทางสู่ โลมาซโซ (Lomazzo) (ระยะทาง 17 กม. / 30 นาที) เมืองเก่าแก่ที่สวยงามตั้งอยู่บนยอดเขาในหุบเขาฝั่งขวาของแม่น้ำลูรา
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่6)
ที่พัก: Just Hotel Lomazzo หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่7)
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้(Tronchetto) (ระยะทาง 300 กม. / 4 ชม.) และนั่งเรือ (Private) จากท่าเรือ
ตรอนเคตโต้สู่ เกาะเวนิส (Venice Island) (ค่าทัวร์รวมค่าล่องเรือแบบ Private ไป-กลับ) ดินแดนแสนโรแมนติก และอบอุ่น เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก (Queen of the Adriatic) เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพานและเมืองแห่งแสงสว่าง ความสวยงามของบ้านเรือนและ ธรรมชาติอันงดงามที่หาไม่ได้จากที่ไหน อีกทั้งวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คน ที่สัญจรด้วยการเดินเรือและการเดินเท้า เสมือนเมืองที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าล่องเรือ Gondola)
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่8) เมนูพิเศษ!! สปาเก็ตตี้หมึกดำ
Highlight! เมื่อเยือนเกาะเวนิส เมนูที่ขึ้นชื่อและหากได้มาต้องได้ลิ้มลอง สปาเก็ตตี้ผัดซอสหมึกดำที่คลุกเคล้ากับความหอมนุ่มนัวกับบรรยากาศ
นำท่านชมความสวยงามของ จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco หรือ Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม อาทิ สะพานรีอัลโต (Ponte di Rialto) เป็นหนึ่งในสะพานข้ามแกรนด์คาแนล ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปมากที่สุด เพราะสะพานแห่งนี้มีความเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ในปี ค.ศ.1181 เลยทีเดียว ต่อมาได้มีการรื้อและสร้างใหม่ด้วยหินอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากสะพานรีอัลโตจะเชื่อมระหว่างเกาะ San macro กับเกาะ San polo ของเวนิสด้วย บริเวณปลายสะพานทั้งสองฝั่งยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าขายของต่างๆ อีกมากมาย จากนั้นพาท่านชม มหาวิหารเซนต์มาร์ก (St Mark’s Basilica) เป็นมหาวิหารที่ได้รับสมญานามว่า Chiesa d’oro หรือโบสถ์ทองตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 เป็นตัวอย่างอันสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ซึ่งตั้งอยู่บนจัตุรัสซันมาร์โกกลางเมืองเวนิส โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกระดับมหาวิหารประจะเขตอัครบิดรเวนิสในประเทศอิตาลี
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเดินทางสู่ เมืองเวโรนา (VERONA) (ระยะทาง 121 กม. / 1.30 ชม.) เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก
เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก : Best Western CTC Hotel Verona หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)
นำท่านถ่ายรูปด้านนอก โรมัน อารีน่า (VERONA ARENA) โรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน ลักษณะเหมือนโคลอสเซียมที่กรุงโรมแต่ขนาดเล็กกว่า เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะโรมันโบราณอายุกว่า 2,000 ปี สามารถจุคนได้กว่า 15,000 คน ปัจจุบันยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต โอเปร่า
Highlight! ใครอยากสมหวังในความรักให้ เอามือไปลูบหน้าอกด้านซ้าย ของรูปปั้นจูเลียต และอธิษฐานขอพรให้สมหวังมีรักที่ดีที่ยั่งยืน
ชื่นชมตำนานความรักชื่อดังอย่าง บ้านของจูเลียต (CASA DI GIULIETTA หรือ Juliette House) สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกและความรักอันเป็นอมตะจากเรื่องราวของโรมิโอและจูเลียต บ้านเลขที่ 27 ถนน VIA CAPPELLO CASA DI GIULIETTA บ้านหลังนี้เคยเป็นของตระกูล CAPPELLO เป็นความบังเอิญที่ชื่อตระกูลคล้ายกับตระกูล CAPULET ของจูเลียต วิลเลียม เชกสเปียร์ กวีเอกของโลก บริเวณกำแพงของบ้านเต็มไปด้วยข้อความบอกรัก และคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรักเขียนทับกันไปมาจนแทบไม่เห็นพื้นผิวกำแพงเดิม (ค่าทัวร์รวมค่าเข้าชม)
ช้อปปิ้งถนน Via Giuseppe Mazzini ถนนที่มีชื่อเสียงหลักๆ เป็นสวรรค์สำหรับนักช้อปที่ต้องการสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมและสินค้าหรูหรา รวมไปถึงมีร้านค้าเล็กๆ ที่ขายสินค้าทั่วไป หรือบูติกบางแห่ง และยังมีร้านอาหารและคาเฟ่คอยให้บริการ
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่10)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) (ระยะทาง 170 กม. / 2.30 ชม.) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า มิลาโน่ (Milano) เป็นเมืองหลวงทางแฟชั่นของโลก แข่งกับปารีสในประเทศฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของอิตาลี สมผสานความทันสมัยเข้ากับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างลงตัว
เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก : Best Western CTC Hotel Milan หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่11)
ถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทสฟอร์เซสโก้ (Sforzesco Castle) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่สำคัญของเมือง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 และเคยเป็นที่พำนักของตระกูลสฟอร์ซาซึ่งเป็นผู้ปกครองมิลานในอดีต ปัจจุบันภายในปราสาทได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นแหล่งรวมพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์หลายแห่ง (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชม)
จุดนี้ก็ห้ามพลาด ถ่ายภาพด้านนอกเช็คอินกับ ซานตามารีอาเดลเลกราซีเอ (Santa Maria delle Grazie) โบสถ์แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1980 และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเนื่องจากเป็นที่ตั้งของผลงานจิตรกรรมฝาผนัง ของเลโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่งอยู่ภายในหอฉัน (Refectory) ของคอนแวนต์ (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชม)
Highlight! สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็นผลงานจิตกรรมที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกอย่าง พระกระยาหารมื้อสุดท้าย" (The Last Supper) ของเลโอนาร์โด ดา วินชี
นำท่านถ่ายรูปด้านนอก มหาวิหารดูโอโม่แห่งมิลาน (Duomo di Milano) มหาวิหารนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถือว่ามีความใหญ่โตเป็นอันดับสามของโลก ใช้เวลาสร้างเสร็จกว่า 400 ปี ด้านนอกมีหลังคายอดเรียวแหลมที่ทำจากหินอ่อนจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากสมัยต่างๆ กว่า 2,245 ชิ้น ยอดที่สูงที่สุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่า
และพื้นที่ใกล้เคียงจะมี ห้างกัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซคอนโด (Galleria Vittorio Emanuele II) เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมิลาน มีลักษณะเป็นทางเดินและอาคารขนาบ 4 ชั้น คลุมด้วยหลังคาทรงโค้ง หรูหราสวยงาม มีร้านค้าแบรนดัง ร้านอาหาร และคาเฟ่เก่าแก่
เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
อิสระช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง Outlet Serravalle (ระยะทาง 95 กม. / 1.30 ชม.) รวมรวมร้านค้าแบรนด์กว่า 230 ร้าน Gucci, Versace, Dolce & Gabbana, Armani, Prada, Nike, Adidas, The North Face และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าแล้ว ยังมีสินค้าตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์ความงาม และอื่นๆ อีกด้วย
เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี (ระยะทาง 135 กม. / 2 ชม.) เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
21.35 น. เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK092
06.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น. เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK372
18.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัทฯ และเมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางหรือปรับราคาค่าบริการขึ้นในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 15 ท่าน
2. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การยกเลิกบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, การนำสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
6. เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
7. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
8. การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิ์ของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่/ปลอดบุหรี่ได้ โดยอาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม และไม่สามารถรับประกันได้
9. กรณีผู้เดินทางต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อาทิเช่น ใช้วิลแชร์ กรุณาแจ้งบริษัทฯ อย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทาง มิฉะนั้น บริษัทฯไม่สามารถจัดการได้ล่วงหน้าได้
10. มัคคุเทศก์ พนักงานและตัวแทนของผู้จัด ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนผู้จัด นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของผู้จัดกำกับเท่านั้น
11. ผู้จัดจะไม่รับผิดชอบและไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เนื่องจากเป็นการเหมาจ่ายกับตัวแทนต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนี เข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
12.การประกันการเดินทาง บริษัทฯ ได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ กับ Allianz Travel แบบแผนประกันภัย Group tour โดยแผนประกันจะครอบคลุมอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆ ประกันจะไม่ครอบคลุม) ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้ กรณีลูกค้าต้องการซื้อประกันเพิ่มวงเงินคุ้มครอง เพิ่มความคุ้มครอง สามารถแจ้งบริษัทฯ ซึ่งความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ประกันภัยเดินทางอันนี้โดยทั้งนี้การทำประกันนี้จากบริษัท มากกว่าข้อบังคับ ตาม พรบ ธุรกิจนำเที่ยว ที่บังคับให้บริษัทนำเที่ยว ทำประกันเฉพาะอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นแผนเติมจากเว็บไซด์ Allianz ได้กรณีท่านต้องการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสามารถแจ้งความประสงค์มาที่บริษัทฯ
13. มัคคุเทศก์ พนักงานและตัวแทนของผู้จัด ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนผู้จัด นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของผู้จัดกำกับเท่านั้น
14. ผู้จัดจะไม่รับผิดชอบและไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เนื่องจากเป็นการเหมาจ่ายกับตัวแทนต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมืองไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนี เข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
18 ซอย27 (บุญศิริ 2) ถนนสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270